
เชื่อว่าแฟนบอลในประเทศไทย หลายคน นั้นคงจะไม่ชอบขี้หน้า ทีมชาติเวียดนาม มากนัก เนื่องจากความขี้โม้ ต่างๆนาๆ ในช่วงที่ ลงแข่งขัน เมื่อเจอกับทีมชาติไทย แต่หากจะพูดถึงผลงานล่าสุด ที่พวกเขา คว้ารองแชมป์ ฟุตบอล ชิงแชมป์ เอเชีย ยู23 ด้วยการพ่ายให้กับ อุซเบกิสถาน 1-2 ในช่วงต่อเวลานาที 120 ไปแบบสุดเจ็บปวด ทุกคนที่เคยหมันไส้ทีม “เหงียนมหาภัย” คงต้องปรบมือให้พวกเขาไม่มากก็น้อย
นี่คือผลงานที่ยอดเยี่ยมของทีมจาก อาเซียน ที่สามารถลงสนามสู้กับทีมในระดับเอเชีย ได้อย่างไม่เป็นรอง และเราจะขอย้อนไปดูว่ากว่าที่ เวียดนาม จะมีวันนี้ ทีมชุดนี้ก้าวขึ้นมาถึงระดับนี้ได้อย่างไร
ย้อนไปเมื่อ11 ปีที่แล้ว สถาบันฟุตบอลเยาวชน ชื่อ เจเอ็มจี อคาเดมี่ (JMG) ได้ก่อตั้งสาขาขึ้นที่เวียดนาม JMG ทำสัญญาพันธมิตรกับสโมสรฮองอันยาลาย ทีมในลีกสูงสุดของเวียดนาม โดยมีข้อผูกมัดว่าจะป้อนนักเตะจากอคาเดมี่เข้าสู่สโมสร
ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป เด็กๆที่ ฝึกฝนด้วยกันที่ JMG พวกเขาก้าวขึ้นไปเล่นกับสโมสรฮองอันยาลาย ตามสนธิสัญญาที่เซ็นกันไว้ หลายคน เป็นตัวจริงของสโมสรได้ทันที และก้าวไปติดทีมชาติชุดเยาวชน ในศึกชิงแชมป์อาเซียน ชุดยู-19 ปี 2013 ที่อินโดนีเซีย โค้ชได้เรียกนักเตะจากฮองอันยาลาย มาเสริมทัพเกินครึ่งทีม ซึ่งในปีนั้น นักเตะเวียดนามกลุ่มนี้ เริ่มจะฉายแสงให้เห็น SBOBET
เวียดนามชุดนั้น ทะลุไปถึงรอบชิง ก่อนจะแพ้เจ้าภาพอินโดนีเซีย จากการยิงจุดโทษ ซึ่งแม้จะไม่ได้แชมป์ แต่ฟอร์มอันน่ากลัว มันทำให้คนอาเซียนโจษจัน ถึงฝีเท้าของทีม u-19 ชุดนี้ ซึ่งแกนหลักก็คือเด็ก JMG จากนั้นในปีเดียวกัน u-19 ทีมนี้ ไปคว้าแชมป์ทันห์เนียน นิวส์เปเปอร์คัพ ด้วยการถล่มไทย 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศอีกต่างหาก
คนเวียดนามจึงพูดกันว่า ทีมชาติชุดใหญ่ ผลงานจะห่วยยังไงก็ช่างมัน เพราะเรามีทีม u-19 อยู่แล้วอย่างไรก็ตาม ความหวังก็ดูเหมือนจะไม่เป็นจริงเสียที เพราะ u-19 ชุดนี้ พอโตขึ้น กลับไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างอย่างที่คิดในซีเกมส์ ผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะ ครั้งล่าสุดที่มาเลเซีย พวกเขาตกรอบแรกไปเลยด้วย
จริงๆมันก็น่าแปลก เพราะหลายทัวร์นาเมนต์ พวกเขาเล่นดีมาก มีเกมรุกที่วูบวาบหวือหวา แต่กลับแป้กในจังหวะสำคัญเสมอ จนไม่มีแชมป์ติดมือสักที มันทำให้ชาวอาเซียน แซวเวียดนามคืนเป็นประจำว่า “ไหนล่ะ u-19 รอนานแล้วนะ ไม่เห็นมาซะที!”
หลังจบซีเกมส์ ช่วงกลางปีที่แล้ว สมาคมฟุตบอลเวียดนาม เริ่มมองเห็นปัญหา พวกเขาเห็นว่านักเตะมีทักษะดี แต่ทำไมถึงแพ้ในเกมการแข่งจริง จึงตัดสินใจเปลี่ยนโค้ช ไปดึงเอา พาร์ก ฮัง-โซ กุนซือเกาหลีใต้ ที่ขึ้นชื่อเรื่องวินัย และการวางเกมรับอันเหนียวแน่น เข้ามาคุมทีม
โดย สิ่งแรกที่ฮัง-โซทำ คือเปลี่ยนทัศนคติของนักเตะ และแฟนบอลเวียดนาม “นักเตะเวียดนามส่วนใหญ่ต้องการจะเล่นแต่เกมรุก พวกเขาอยากจะเป็นบาร์เซโลน่า แต่ในความเป็นจริง เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ตลอด” ฮัง-โซ เผย พนันออนไลน์
พาร์ก ฮัง-โซ เริ่มปรับมาใช้ระบบ 3 เซ็นเตอร์แบ็ก นอกจากนั้นยังบังคับให้นักเตะเกมรุก สนใจการเล่นเกมรับด้วย ขณะที่นอกสนามมีการคุมเข้มเรื่องอาหารการกิน มีการบังคับให้ดื่มนมวันละ 1 ลิตรทุกคน แต่เดิมนักเตะเวียดนามมีทักษะที่โอเคอยู่แล้ว ยิ่งมาบวกกับแท็กติก และการเอาใจใส่ที่ถูกต้อง มันยิ่งเป็นสปริงบอร์ด ช่วยให้พวกเขากระโดดไปได้ไกลขึ้น
สัญญาณดีๆ เริ่มตั้งแต่ m-150 คัพ ที่บุรีรัมย์ กลางเดือนธันวาคม ที่เวียดนาม จบอันดับ 3 ด้วยการเอาชนะไทย ในการชิงที่ 3 ด้วย และจากนั้นมา ก็อย่างที่เราทราบกันดี ในทัวร์นาเมนต์แข่งจริง ศึก u-23 ชิงแชมป์เอเชีย เวียดนามอยู่ในสายเดียวกับเกาหลีใต้ , ออสเตรเลีย และ ซีเรีย แต่สุดท้าย ยังเข้ารอบมาได้ แถมทะลุไปถึงนัดชิงชนะเลิศอีกต่างหาก
นักเตะจาก JMG ชุดบุกเบิก ที่โดนขนานนามว่าเป็น u-19 ในตำนาน อยู่ในทีมชุดรองแชมป์เอเชียถึง 6 คน เหงียน คอง เฟือง , ลวง ซวน ตรวง , ฟาม ดั๊ค ฮุย , วู วาน ทันห์ , เหงียน ฟอง ฮองดุย และ เหงียน วาน โตนเด็กๆเหล่านั้น ที่เคยโดนค่อนขอดมาตลอดจากแฟนๆอาเซียน ในวันนี้พวกเขาพิสูจน์ตัวเองได้ และ ด้วยผลงานรองแชมป์เอเชียแบบนี้ คงไม่มีใครกล้าวิจารณ์อะไรได้อีกต่อไป ซึ่งน่าดีใจแทนแฟนเวียดนาม ที่การรอคอย u-19 อันยาวนาน ในที่สุด เด็กพวกนี้ก็มาถึงที่หมายได้จริงๆ
ย้อนกลับมาดู ทีมชาติไทย ในรอบ 5 ปีหลังสุด เรายึดครองอาณาจักรอาเซียน คว้าแชมป์ซูซูกิคัพ 2 สมัย ขณะที่ในฟุตบอลโลก ก็ไปไกลถึงรอบ 12 ทีมสุดท้าย ถือเป็นช่วงที่เราผลงานเยี่ยมมาก นั่นก็เป็นเพราะเรามีเจเนเรชั่นที่แข็งแกร่ง เรามีธีรศิลป์ , ชนาธิป , ธนบูรณ์ , กวินทร์ และ ธีราทร ก้าวขึ้นมาพร้อมๆกัน ทำให้ในระดับภูมิภาคนี้ ไม่มีใครสู้เราได้
แต่สิ่งที่น่าคิด คือ ยุคสมัยหลังจากนี้ล่ะ ถ้าวันนั้นมาถึง เราจะทำอย่างไร ยังไม่ต้องพูดถึงระดับเอเชีย เอาแค่ในอาเซียน เราจะยังครองความยิ่งใหญ่ได้อยู่ไหม ขณะที่เพื่อนบ้านของเรา กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตจากอคาเดมี่ ได้เห็นสิ่งที่ปลุกปั้นมานานเริ่มผลิดอกออกผล
คนเวียดนามเริ่มมีความหวัง ว่าเด็กเจเนเรชั่นนี้ อาจเป็นอนาคตของประเทศได้ต่อไป หรือ เด็กมาเลเซียที่เคยโดนมองตลอดว่าเป็นหมูสนาม แต่ในศึกชิงแชมป์เอเชีย พวกเขาก็ผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ได้ แม้แต่ฟิลิปปินส์ สโมสรลีกของพวกเขา เอาชนะบริสเบน รอร์ จากออสเตรเลียได้อย่างสวยงาม ในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก
จากการพัฒนาของชาติรอบตัว มันทำให้ต้องมองย้อนกลับมาที่ ทีมชาติไทยของเรา กับคำถามที่ หวังว่าในอนาคตต่อจากนี้ เรายังมีความหวังอยู่จริงๆใช่ไหม หรือสุดท้ายเราต้องวนเข้าอีกหรอบเดิมๆ
เหมือนเช่นเคยก็ไม่รู้